วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Japan

ประเทศญี่ปุ่น

    ประวัติประเทศญี่ปุ่น


 ญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น日本 Nihon/Nippon นิฮง/นิปปง ) มีชื่อทางการคือประเทศญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น日本国 Nihon-koku/Nippon-koku นิฮงโกะกุ/นิปปงโกะกุ ) เป็นประเทศหมู่เกาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันตกติดกับคาบสมุทรเกาหลี และสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยมีทะเลญี่ปุ่นกั้น ส่วนทางทิศเหนือ ติดกับประเทศรัสเซีย มีทะเลโอค็อตสก์ เป็นเส้นแบ่งแดน ตัวอักษรคันจิของชื่อญี่ปุ่นแปลว่าถิ่นกำเนิดของดวงอาทิตย์ จึงทำให้บางครั้งถูกเรียกว่าดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย




แผนที่ประเทศญี่ปุ่น


 ภูมิศาสตร์

      ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะเป็นหมู่เกาะซึ่งมีจำนวนมากกว่า 3,000 เกาะวางตัวอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออกของทวีปเอเชีย เกาะที่สำคัญเรียงจากเหนือไปใต้ได้แก่ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ และคีวชู นอกจากนี้ยังมีหมู่เกาะริวกิวทางตอนใต้ของเกาะคีวชู ซึ่งเกาะทั้งหมดนี้เรียกรวมกันว่าหมู่เกาะญี่ปุ่น ญี่ปุ่นถูกล้อมรอบด้วยทะเลทุกด้าน ได้แก่ทะเลโอคอตสค์ทางเหนือ ทะเลญี่ปุ่นทางตะวันตก ทะเลจีนตะวันออกทางตะวันตกเฉียงใต้ทะเลฟิลิปปินส์ทางใต้ และมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออก พื้นที่ประมาณร้อยละ 70 เป็นภูเขา ซึ่งไม่สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือทำการเพาะปลูกได้ เพราะมีลักษณะสูงชันและมีโอกาสที่จะเกิดดินถล่มจากแผ่นดินไหวหรือฝนที่ตกหนัก ประชากรญี่ปุ่นส่วนใหญ่จึงต้องอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งอย่างหนาแน่น และทำให้เมืองสำคัญในญี่ปุ่นมีประชากรหนาแน่นมาก ใน พ.ศ. 2548 ญี่ปุ่นมีป่าไม้ร้อยละ 66.4 พื้นที่ทางการเกษตรร้อยละ 12.6 อาคารร้อยละ 4.9 พื้นน้ำร้อยละ 3.5 ถนนร้อยละ 3.5 และอื่น ๆ ร้อยละ 9
     ประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ในวงแหวนแห่งไฟ บริเวณรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลก 3 แผ่น ทำให้เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงต่ำบ่อย และยังมีแผ่นดินไหวความรุนแรงสูงที่ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงหลายครั้งในศตวรรษที่ผ่านมา เช่นเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน-อะวะจิ ใน พ.ศ. 2537 และแผ่นดินไหวชูเอะสึจังหวัดนีงาตะ ใน พ.ศ. 2547 เป็นต้น นอกจากนี้ การที่ญี่ปุ่นตั้งอยู่ในบริเวณวงแหวนแห่งไฟ ยังทำให้ญี่ปุ่นมีบ่อน้ำพุร้อนจำนวนมากทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกพัฒนาให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ภูเขาฟูจิซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นก็เป็นภูเขาไฟ

      


ภูเขาไฟฟูจิ

    ภูมิอากาศ
 หมู่เกาะญี่ปุ่นวางตัวยาวในแนวเหนือใต้จึงทำให้มีลักษณะภูมิอากาศแตกต่างกันมากประเทศญี่ปุ่นสามารถแบ่งเขตภูมิอากาศออกเป็น 6 เขต คือ

  • ฮอกไกโด: พื้นที่ตอนเหนือสุดของประเทศมีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี แม้จะมีหยาดน้ำฟ้าไม่มาก แต่ในฤดูหนาวก็มีหิมะปกคลุมทั่วทั้งเกาะ
  • ทะเลญี่ปุ่น: ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลทางตะวันตกของเกาะฮอนชู ลมตะวันตกเฉียงเหนือที่พัดผ่านในช่วงฤดูหนาวทำให้มีหิมะตกมาก ในช่วงฤดูร้อนอากาศมักจะเย็นกว่าฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก แม้ว่าบางครั้งจะเกิดปรากฏการณ์เฟห์นที่ทำให้อากาศร้อนมากผิดปกติ
  • ที่สูงตอนกลาง: อุณหภูมิระหว่างฤดูร้อนและฤดูหนาวและระหว่างกลางวันและกลางคืนมีความแตกต่างมาก
  • ทะเลเซะโตะ: ภูเขาบริเวณจูโงะกุและชิโกะกุช่วยป้องกันบริเวณทะเลเซะโตะจากลมฤดูต่าง ๆ ทำให้บริเวณนี้มีอากาศอบอุ่นและมีฝนตกน้อยตลอดทั้งปี
  • ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก: ตั้งอยู่ชายฝั่งมหาสมุทรทางตะวันออกของประเทศ ในฤดูหนาวมีอากาศที่หนาวเย็นแต่ไม่ค่อยมีหิมะตก ในฤดูร้อนมีอากาศร้อนและชื้นเพราะลมตะวันออกเฉียงใต้
หมู่เกาะตะวันตกเฉียงใต้หมู่เกาะริวกิวมีอุณหภูมิกึ่งเขตร้อน คืออากาศอุ่นในฤดูหนาวและร้อนในฤดูร้อน มีฝนตกมากและมีไต้ฝุ่นผ่านมาในช่วงเปลี่ยนฤดู
      ฤดูฝนหลักเริ่มต้นขึ้นในต้นเดือนพฤษภาคมที่โอะกินะวะ และจึงค่อย ๆไต่ขึ้นไปจนถึงฮอกไกโดในปลายเดือนกรกฎาคม บนเกาะฮอนชูฤดูฝนจะเริ่มในกลางเดือนของเดือนมิถุนายน มีระยะเวลาประมาณเดือนครึ่ง และในช่วงปลายฤดูร้อนจนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วงมักมีไต้ฝุ่นพัดผ่าน โดยเฉลี่ยจะมีไต้ฝุ่นพัดเข้าใกล้ญี่ปุ่นปีละ 11 ลูก

      การแบ่งเขตการปกครอง
        ญี่ปุ่นแบ่งการปกครองออกเป็น 47 จังหวัด(บริเวณเขตและจังหวัดต่างๆของญี่ปุ่น) และ 8 ภูมิภาค ซึ่งมักจะถูกจับเข้ากลุ่มตามเขตแดนที่ติดกันที่มีวัฒนธรรมและสำเนียงการพูดใกล้เคียงกัน ทุกจังหวัดจัดให้มีการเลือกตั้งเพื่อเลือกผู้ว่าราชการจังหวัด

แผนที่แสดงเขตการปกครองประเทศญี่ปุ่น
   ประชากร
         ประมาณ 127,491,000 คน (กันยายน 2552) เป็นประชากรสูงอายุ คืออายุ 65 ปี ขึ้นไปจำนวน 28.95 ล้านคน หรือเท่ากับร้อยละ 22.7 ของประชากรทั้งหมด ปัจจุบัน ประชากรญี่ปุ่นมีจำนวนเท่ากับร้อยละ 1.89 ของประชากรโลก เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 10 ของโลก 

    เชื้อชาติ 
        เชื้อชาติญี่ปุ่น ในทางประวัติศาสตร์เชื่อกันโดยทั่วไปว่าบรรพบุรุษของชาวญี่ปุ่นได้แก่กลุ่มเผ่าพันธุ์หนึ่งที่เรียกในปัจจุบันว่า เผ่าพันธุ์ยามาโตะ ผสมกับคนที่อพยพมาจากแผ่นดินใหญ่ ได้แก่ จีนและเกาหลี ปัจจุบันคนต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่อยู่ในญี่ปุ่น ได้แก่ ชาวเกาหลีและชาวจีน รวมทั้งเผ่าไอนุซึ่งอาศัยอยู่ที่เกาะฮอกไกโด ทั้งนี้ ญี่ปุ่นไม่ถือว่าประเทศของตนมีชนกลุ่มน้อย    
    ศาสนา 
        ศาสนาใหญ่ ๆ มี 2 ศาสนา คือ ศาสนาพุทธ และศาสนาชินโต ซึ่งรวมแล้วคิดเป็นร้อยละ 84 ของประชากรทั้งหมด นอกจากนั้นได้แก่ ศาสนาคริสต์และลัทธิขงจื้อ
 

    ภาษา
         ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาราชการ
    เมืองหลวง         
         กรุงโตเกียว (Tokyo) ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรพำนักอยู่มากที่สุดในประเทศคือ 12,064,000 คน (กันยายน 2552)    
    การเมืองการปกครอง 
          รูปแบบการปกครอง ระบอบเสรีประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยมีรัฐสภาเป็นสถาบันสูงสุดของรัฐ และมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล นอกจากนี้ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้มีการบัญญัติไว้ว่าสมเด็จพระจักรพรรดิทรงเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ มิใช่องค์ประมุขและไม่มีอำนาจในการบริหารประเทศ รัฐสภา เรียกชื่อว่า “สภาไดเอท” ประกอบด้วย สภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives) ซึ่งมีสมาชิก 480 คน มาจากการเลือกตั้งทั่วประเทศมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี และวุฒิสภา (House of Councillors) ซึ่งมีสมาชิก 242 คน มีวาระในการดำรงตำแหน่ง 6 ปี โดยเลือกตั้งจำนวนครึ่งหนึ่งสลับกันไปทุก 3 ปี- ประธานสภาผู้แทนราษฎร (Speaker of the House of Representatives) นายทาคาฮิโระ โยโคมิจิ (Mr.Takahiro YOKOMICHI) (สังกัดพรรค DPJ)


- ประธานวุฒิสภา (President of the House of Councillors) นายซัทสึกิ เอดะ (Mr.Satsuki EDA) (ไม่มีสังกัดพรรค แต่เคยสังกัดพรรค DPJ) 

   เศรษฐกิจ
        ญี่ปุ่นมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา เมื่อวัดด้วยจีดีพีก่อนปรับอัตราเงินเฟ้อ (ประมาณ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) และอันดับที่ 3 รองจากสหรัฐอเมริกาและจีน เมื่อวัดด้วยอำนาจการซื้อ ญี่ปุ่นมีกำลังการผลิตที่สูงและเป็นประเทศต้นกำเนิดของผู้ผลิตชั้นนำที่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น รถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร เหล็กกล้า โลหะนอกกลุ่มเหล็ก เรือ สารเคมี
        
จากข้อมูลใน พ.ศ. 2548 แรงงานของประเทศญี่ปุ่นมีจำนวน 66.7 ล้านคน ญี่ปุ่นมีอัตราว่างงานที่ต่ำคือประมาณร้อยละ 4 ค่าจีดีพีต่อชั่วโมงการทำงานอยู่ในอันดับที่ 20 ของโลกใน พ.ศ. 2548 และเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย บริษัทใหญ่ของญี่ปุ่นหลายแห่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลก เช่นโตโยต้า โซนี่ เอ็นทีที โดโคโม แคนนอน ฮอนด้า ทาเคดา นินเทนโด นิปปอน สตีล และ เซเว่น อีเลฟเว่น ญี่ปุ่นเป็นต้นกำเนิดของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดหลายแห่ง ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว   ซึ่งมักจะเป็นที่รู้จักเพราะดัชนีนิเคอิมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเมื่อวัดด้วยมูลค่าตลาด









ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อิคคิวซัง







วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

เชงเก้น

                                         ชงเก้น

         เชงเกนเป็นเมืองเล็กๆ ในประเทศลักเซมเบิร์กที่เป็นสถานที่ลงนามความตกลงซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการยกเลิกการตรวจคนเข้าเมืองบริเวณชายแดนภายในพื้นที่ที่นับแต่นั้นมาเรียกเป็นกลุ่มประเทศเชงเกนกลุ่มประเทศเชงเกนประกอบด้วยประเทศในทวีปยุโรปที่ปรากฏในแผนที่ด้านล่างซึ่งเป็นประเทศสมาชิกของกลุ่มประเทศเชงเกนดังกล่าว

ตรวจสอบอายุของหนังสือเดินทางคุณ

วันหมดอายุของหนังสือเดินทางต้องมีจำนวนมากกว่าวันที่คำขอวีซ่าหมดอายุ 3 เดือน

ยื่นคำร้องขอวีซ่าเชงเกน 


         ใช้ ตัวคำนวณ วีซ่าเชงเกนอัตโนมัติของเราเพื่อทราบภายในสามคลิกว่าคุณต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าหรือไม่

รายชื่อประเทศในเขตเชงเกน

เยอรมนี ออสเตรีย เบลเยียม เดนมาร์ก สเปน เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส กรีซ ฮังการี ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลัตเวีย ลิกเตนสไตน์ ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลตา นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ โปรตุเกส สาธารณรัฐเช็ก สโลวาเกีย สโลวีเนีย สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์

จัดเตรียมเอกสารบางชิ้นสำหรับการเดินทางของคุณที่อาจมีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศ

  • บัตรโดยสาร
  • หนังสือเชิญ หนังสือรับรองการให้ที่พัก
  • หนังสือรับรองการประกันเชงเกน

เตรียมค่าธรรมเนียมวีซ่าอยู่อาศัย

โปรดระวัง สถานกงสุลหรือสถานทูตอาจปฏิเสธวีซ่าโดยไม่ให้คำอธิบายใดๆ
สัญญาประกันการเดินทางเชงเกนจะชำระคืนค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นจำนวนไม่เกิน 50 ยูโร หลังคุณแสดงหลักฐานการปฏิเสธวีซ่าโดยสถานทูตหรือสถานกงสุล
        ดูหัวข้อ "ความคุ้มครอง" ซึ่งให้สิทธิประโยชน์มากกว่าข้อผูกพันเชงเก้นในการได้รับวีซ่ารวม         ถึง ราคา ค่าประกันการเดินทางเชงเกนอีกด้วย


    



วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561

สนธิสัญญามาสทริชท์

                             

                       สนธิสัญญามาสทริชท์

      สนธิสัญญามาสทริชต์ หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า สนธิสัญญาว่าด้วยสหภาพยุโรป (ย่อ: TEU) ลงนามเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 โดยสมาชิกประชาคมยุโรปในมาสทริชท์ 
      ประเทศเนเธอร์แลนด์[1] วันที่ 9-10 ธันวาคม พ.ศ. 2534 นครแห่งเดียวกันนี้ได้เป็นที่ประชุมของสภายุโรปซึ่งร่างสนธิสัญญาดังกล่าว[2] ในโอกาสที่สนธิสัญญาฯ มามีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 ระหว่างคณะกรรมาธิการเดอลอร์ส (Delors Commission)[3] มีผลให้สหภาพยุโรปถูกจัดตั้งขึ้นและนำไปสู่การก่อตั้งเงินสกุลเดี่ยวของยุโรป คือ ยูโร สนธิสัญญามาสทริชต์ได้ถูกแก้ไขโดยสนธิสัญญาภายหลังในระดับหนึ่ง